ศาลพิพากษายกฟ้อง นักวิชาการกะเหรี่ยงฯ  และอดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กรณีชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ฟ้องหมิ่นประมาท หลังโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการครอบครองพื้นที่ในป่าสงวน

18 พฤศจิกายน 2562 ศาลจังหวัดมีนบุรี อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.6246/2561 ซึ่งเป็นคดีระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานสูงสุด โจทก์ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (โจทก์ร่วม) ยื่นฟ้องต่อนายสมัคร ดอนนาปี อดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (จำเลยที่ 1) และนายวุฒิ บุญเลิศนักวิชาการอิสระที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง (จำเลยที่ 2) ต่อศาลในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 91  และมาตรา 328 

จากกรณีที่จำเลยที่  1 ให้สัมภาษณ์นิตยสารผู้จัดการออนไลน์และแชร์ข่าวดังกล่าวพร้อมโพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊กของตนเองและต่อมาจำเลยที่ 2 ได้แชร์โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กต่อ ซึ่งข้อความที่จำเลยทั้ง 2 โพสต์เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบไร่ชัยราชพฤกษ์ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

ในการสืบพยานโจทก์และจำเลยเมื่อวันที่ 10-11 กันยายน 2562  ที่ผ่านมา จำเลยยืนยันว่าข้อความที่ตนโพสต์เป็นเรื่องที่มีการตรวจสอบของสื่อมวลชนซึ่งเผยแพร่ต่อสาธารณะมาก่อนหน้านี้แล้วเกี่ยวกับไร่ชัยราชพฤกษ์ จึงน่าสงสัยว่าการที่ตนถูกฟ้อง น่าจะเป็นการกลั่นแกล้ง เป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยไม่สุจริตเพราะตนเป็นผู้มีส่วนในการช่วยเหลือพี่น้องชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมทั้งกรณีการเผาที่อยู่อาศัยของปู่คออี้ และ กรณีหายตัวไปของนายบิลลี่ พอละจี ที่นายชัยวัฒน์ฯ ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งสองกรณีดังกล่าวนี้ด้วย

เนื้อหาของคำพิพากษามีใจความดังนี้

ศาลเห็นว่าข้อความที่มีการโพสต์ตามที่นายชัยวัฒน์ กล่าวอ้างตามคำฟ้อง ไม่ได้กล่าวถึงหรือมีพยานหลักฐานใดที่จะทำให้วิญญูชนหรือประชาชนทั่วไป อ่านแล้วเข้าใจได้ว่าเป็นการกล่าวถึงนายชัยวัฒน์ หรือ เข้าใจได้ว่า นายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ครอบครองตามที่ดินแทนนายชัยวัฒน์ และเมื่อพิจารณาเนื้อหาตามโพสต์แล้ว ผู้โพสต์มุ่งหมายเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบการปฏิบัติราชการ และการครอบครองไร่ชัยราชพฤกษ์ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงไม่ถือว่าเป็นข้อความที่หมิ่นประมาทตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

ทั้งนี้ ภายหลังจากศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ ทนายความจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซึ่งเป็นทนายความของจำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำขอคัดเอกสารคำพิพากษา เเละดำเนินการถอนเงินประกันตัวให้กับจำเลยที่ 2