Month: March 2018

การควบคุมอำนาจดุลพินิจของฝ่ายปกครองโดยศาลปกครองไทย (ตอนที่ 3) โดย นายสงกรานต์ ป้องบุญจันทร์

อ่านการควบคุมอำนาจดุลพินิจของฝ่ายปกครองโดยศาลปกครองไทย (ตอนที่1) (ตอนที่2) (ตอนที่4) 2.3 การแบ่งประเภทของอำนาจดุลพินิจ การแบ่งประเภทของอำนาจดุลพินิจนั้นสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภทแล้วแต่แง่มุมและวัตถุประสงค์ในการแบ่ง ในที่นี้จะเสนอแง่มุมในการแบ่งประเภทอำนาจดุลพินิจใน 3 แง่มุม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 2.3.1 การแบ่งประเภทของอำนาจดุลพินิจโดยพิจารณาจากขั้นตอนของการใช้กฎหมาย หากพิจารณาจากขั้นตอนการใช้กฎหมายสามารถแบ่งประเภทของอำนาจดุลพินิจออกได้เป็น 2 ประเภทคือ ดุลพินิจที่จะกระทำการหรือไม่กระทำการ และดุลพินิจในการเลือกมาตรการใดมาตรการหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด<13> ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ ก) ดุลพินิจที่จะกระทำการหรือไม่ (Entschliessungsermessen) เป็นกรณีที่เมื่อมีข้อเท็จจริงครบถ้วนตามองค์ประกอบของกฎหมาย แล้วกฎหมายกำหนดให้ฝ่ายปกครองมีอำนาจดุลพินิจที่จะตัดสินใจว่าฝ่ายปกครองจะกระทำการหรือไม่กระทำการก็ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงเฉพาะรายที่เกิดขึ้นและเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 43 บัญญัติว่า “ในกรณีที่ปรากฏว่าท้องที่ใดมีลักษณะพื้นที่ต้นน้ำลำธารหรือมีระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นโดยทั่วไป หรือมีระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติที่อาจถูกทำลายหรืออาจได้รับผลกระทบกระเทือนจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ได้โดยง่ายหรือเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าทางธรรมชาติหรือศิลปกรรมอันควรแก่การอนุรักษ์และพื้นที่นั้นยังมิได้ถูกประกาศกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์ ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่นั้นเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม” ตามบทบัญญัตินี้จะเห็นได้ว่ากฎหมายกำหนดให้รัฐมนตรี มีอำนาจ ออกกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมได้ เมื่อมีข้อเท็จจริงครบถ้วนตามองค์ประกอบของกฎหมาย การ”ให้อำนาจรัฐมนตรี” ตามบทบัญญัตินี้ก็หมายความว่าให้รัฐมนตรีมีอำนาจดุลพินิจที่จะประกาศหรือไม่ประกาศให้พื้นที่ที่มีข้อเท็จจริงครบถ้วนตามองค์ประกอบของกฎหมายเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมก็ได้ ข) ดุลพินิจที่จะเลือกมาตรการใดมาตรการหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด (Auswahlermessen) เป็นกรณีที่เมื่อมีข้อเท็จจริงครบถ้วนตามองค์ประกอบของกฎหมาย แล้วกฎหมายกำหนดให้ฝ่ายปกครองมีอำนาจดุลพินิจที่จะเลือกมาตรการใดมาตรการหนึ่งหรือหลายมาตรการตามที่กฎหมายกำหนด ในการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงเฉพาะรายที่เกิดขึ้นและเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 มาตรา 37 บัญญัติว่า “ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ประกอบการโรงงานผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือการประกอบกิจการโรงงานมีสภาพที่อาจก่อให้เกิดอันตราย […]

กฎหมายห้ามชุมนุมในรัฐทหาร

โดย เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ 17 ธันวาคม 2560 หากยังมีใครเชื่อว่ากฎหมายห้ามชุมนุม หรือพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 เป็นกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองผู้ชุมนุมอยู่อีก เขาผู้นั้นก็คงจะหูหนวกและตาบอดสนิท เทียบไม่ได้กับชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่มองเห็นโลกตามความเป็นจริงเสียยิ่งกว่า ดังเสียงสะท้อนแผ่วเบาของชาวบ้านคนหนึ่งในพื้นที่คัดค้านการทำเหมืองแร่ทองคำจังหวัดเลยพูดเอาไว้ได้น่าสนใจว่า “ก่อน คสช. ทำการรัฐประหาร พวกนายทุนหรือบริษัทฟ้องคดีเรา แต่พอหลัง คสช. รัฐประหาร รัฐกลับเป็นผู้ฟ้องคดีเรา” นั่นคือเสียงสะท้อนจากรูปธรรมในพื้นที่ที่ผู้หญิง 7 คน ถูกรัฐกลั่นแกล้งโดยกฎหมายห้ามชุมนุมพ่วงกฎหมายอาญา โดยมีการกระทำเป็นขบวนการเริ่มจากสมาชิก อบต.เขาหลวงในเขตหมู่บ้านโซนบนของตำบลแจ้งข้อหา ตำรวจทำสำนวน และอัยการจังหวัดเลยส่งฟ้องศาลในวันสตรีสากลปี 2560 พอดิบพอดี ในข้อหา หนึ่ง-เป็นผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุม สอง-เป็นผู้เข้าร่วมการชุมนุมโดยไม่ชอบตามกฎหมาย และสาม-กระทำการบังคับและข่มขืนใจสมาชิก อบต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย จำนวน 16 คนในเขตหมู่บ้านโซนบนของตำบลในระหว่างการประชุมสภาโดยบังคับและข่มขืนใจไม่ให้มีมติอนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้และ ส.ป.ก. เพื่อทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด และน่าจะมีคดีใหม่ตามกฎหมายห้ามชุมนุมเกิดขึ้นอีกในเร็ว ๆ นี้ เป็นคดีคล้ายกันแต่ต่างกรรมต่างวาระอันเนื่องมาการประชุมสภา อบต. เขาหลวงหลายครั้งหลายหนในช่วงสามปีที่ผ่านมาเพื่อพิจารณาวาระการอนุญาตขอใช้พื้นที่ป่าไม้และพื้นที่ ส.ป.ก. […]

1 2