แถลงการณ์ การดำเนินคดีกับทนายความที่ ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักวิชาช ีพ ถือเป็นการแทรกแซงการดำเนิน คดีที่เป็นธรรมและขัดขวางกา รเข้าถึงความยุติธรรมของประ ชาชนอย่างร้ายแรง
ภายหลังจากการยึดอำนาจของคณ ะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นอกจากจะมีกฎหมายและกระบวนก ารยุติธรรมที่มีความพิเศษผิ ดไปจากระบบปกติแล้ว การปฏิบัติหน้าที่ของทนายคว ามในการให้ความช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ผู้ต้องหาหรือจำเล ยก็ตกอยู่ในสภาวะยากลำบากด้วยเ ช่นกัน การดำเนินคดีถูกนำมาใช้เป็น เครื่องมือในการคุกคามการปฏ ิบัติหน้าที่ของทนายความ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีทนายค วามอย่างน้อย 2 รายที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี หนึ่งในนั้นคือนางสาวศิริกา ญจน์ เจริญศิริ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพ ื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งทำหน้าที่เป็นทนายความใ ห้กับนักศึกษาขบวนการประชาธ ิปไตยใหม่ 14 คน ที่ถูกข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัว หน้า คสช.ที่ 3/ 2558 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ประกอบมาตรา 83 ทั้งนี้ นางสาวศิริกาญจน์ ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์ที่เจ ้าหน้าจะทำการตรวจค้นหาหลัก ฐานของ 14 นักศึกษาจากรถยนต์ของเธอ เมื่อช่วงกลางดึกวันนี้ 27 มิถุนายน 2558 แต่เธอและทีมทนายความจากศูน ย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยช นไม่ยินยอม เนื่องจากการตรวจค้นวัตถุพย านตามกฎหมายจะต้องกระทำในที ่เกิดเหตุ หรือต้องมีหมายศาล และเธอได้เข้าแจ้งความฐานปฏ ิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อเจ้ าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นี้จึงเป็นเหตุให้ต่อมาเธอถ ูกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข ้อกล่าวหาข้อหาแจ้งความอันเ ป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญ า และข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพน ักงาน โดยในวันนี้ (27 กรกฎาคม) เธอจะเดินทางเข้าพบพนักงานอ ัยการตามหมายเรียกส่งตัวผู้ ต้องหาเพื่อทำการสั่งคดี
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เห็นว่า ทนายความมีบทบาทสำคัญในการใ ห้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก ่ประชาชน เพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธ ิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป ็นมนุษย์ของประชาชน โดยเฉพาะสิทธิในการเข้าถึงค วามยุติธรรม (the right to access to justice) และการดำเนินคดีที่เป็นธรรม (the right to a fair trial) อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในก ระบวนการยุติธรรมที่ถูกรับร องไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอา ณาจักรไทยหลายฉบับที่ผ่านมา รวมทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอา ณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 และตราสารระหว่างประเทศที่ป ระเทศไทยเข้าเป็นภาคี โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเ มือง (ICCPR)
การปฏิบัติหน้าที่ของทนายคว ามในการปกป้องรักษาประโยชน์ ของลูกความตามหลักวิชาชีพ จึงต้องได้รับการคุ้มครองอย ่างเต็มที่ เพื่อประกันว่าสิทธิของประช าชนจะได้รับการคุ้มครองอย่า งเป็นรูปธรรม โดยทนายความจะต้องสามารถปฏิ บัติหน้าที่ทางวิชาชีพของตน ได้อย่างเป็นอิสระและปราศจา กการข่มขู่ ขัดขวาง การแทรกแซงที่ไม่ชอบธรรม และการเผชิญกับการถูกดำเนิน คดีหรือจากการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้า ที่ในทางวิชาชีพตามมาตรฐานแ ละจริยธรรมที่ได้รับการรับร องไว้ ซึ่งในข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 11 และข้อ 12 ก็บัญญัติให้การคุ้มครองควา มเป็นอิสระดังกล่าวไว้ด้วย
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เห็นว่า การพยายามดำเนินคดีกับนางสา วศิริกาญจน์ เจริญศิริ จากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป กป้องประโยชน์ของลูกความตาม หลักวิชาชีพ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอ บธรรม และเป็นการทำลายหลักประกันส ิทธิในการเข้าถึงความยุติธร รมและการดำเนินคดีที่เป็นธร รมอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานข องประชาชนที่ถูกรับรองไว้ทั ้งในรัฐธรรมนูญและพันธกรณีร ะหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป ็นภาคี
อีกทั้ง ในฐานะปัจเจกชน หากเห็นว่าการตรวจค้นกระทำโ ดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎ หมายนั้นย่อมมีสิทธิโต้แย้ง และตอบโต้เพื่อป้องกันสิทธิ ของตน ตลอดจนเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งใด ๆ อันสืบเนื่องจากการปฏิบัติท ี่ไม่ชอบได้ และไม่ถือว่าการโต้แย้งหรือ เพิกเฉยเช่นนั้นเป็นความผิด (คำพิพากษาฎีกาที่ 8722/2555)
ดังนั้น สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน จึงขอเรียกร้องให้พนักงานอั ยการพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ ยวกับการดำเนินคดีต่อนางสาว ศิริกาญจน์ เจริญศิริ นอกจากนี้ รัฐต้องเคารพรัฐธรรมนูญและพ ันธกรณีระหว่างประเทศที่ประ เทศไทยเป็นภาคี โดยต้องยุติการคุกคามในทุกร ูปแบบต่อทนายความที่ปฎิบัติ หน้าที่เพื่อปกป้องประโยชน์ ของลูกความตามหลักวิชาชีพ
ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภ าพของประชาชนและศักดิ์ศรีคว ามเป็นมนุษย์
สมาคมนักกฎหมายกฎหมายสิทธิม นุษยชน (HRLA)
Related