ใบแจ้งข่าว : ขอเชิญสื่อมวลชนและผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดี “อภิชาต” ชูป้ายคัดค้านรัฐประหารหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ

ใบแจ้งข่าว : ขอเชิญสื่อมวลชนและผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดี “อภิชาต” ชูป้ายคัดค้านรัฐประหารหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม 2559 เวลา 13.30 น. ศาลแขวงปทุมวันมีนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในคดีหมายเลขดำที่ 1097/2559 และคดีหมายเลขแดงที่ 9075/2559 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดฯ กับ จ่าสิบเอกอภิชาต พงษ์สวัสดิ์ ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกและความผิดต่อประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง จากกรณีที่นายอภิชาตชูป้ายคัดค้านการรัฐประหารหน้าหอศิลป์ฯ จึงขอเชิญสื่อมวลชนและผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น
คดีนี้ สืบเนื่องจากกรณีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร ของจ่าสิบเอกอภิชาต พงษ์สวัสดิ์ ผู้ช่วยนักวิชาการปฎิรูปกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการปฎิรูปกฎหมาย เพื่อคัดค้านการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 และพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องในวันที่ 28 เมษายน 2558 ในความผิดต่อพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกและความผิดต่อประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง

ต่อมาศาลแขวงปทุมวันมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 พิพากษายกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่ากระบวนการสอบสวนไม่ถูกต้อง เนื่องจากคดีนี้เหตุเกิดและจำเลยถูกจับกุมในท้องที่สน.ปทุมวัน แต่ตำรวจจากกองปราบเป็นผู้สอบสวน ซึ่งโจทก์ไม่ได้นำสืบให้ศาลเห็นถึงเขตอำนาจสอบสวน จึงถือว่าไม่มีการสอบสวนอย่างถูกต้อง

วันที่ 17 มีนาคม 2559 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดได้อุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลแขวงปทุมวัน โดยยกประเด็นที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานและพยานบุคคลมานำสืบถึงอำนาจการสอบสวนโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้นั้น เป็นการวินิจฉัยที่คลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย จึงขอให้ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาและลงโทษจำเลยตามกฎหมาย

โดยคดีนี้ ศาลแขวงปทุมวันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 11 ตุลาคม 2559 วินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ โดยอาศัยข้อเท็จจริง กล่าวคือ การสอบสวนของพนักงานสอบสวนเป็นการปฏิบัติงานตาม ป.วิ.อาญา พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม จึงมีอำนาจสอบสวนเกี่ยวกับความผิดที่มีโทษทางอาญาทั่วราชอาณาจักร และตามคำสั่งที่ 145/2557 กองบังคับการปราบปรามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องแต่งตั้งพนักงานสอบสวนกรณีผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ซึ่งกำหนดให้ร.ต.ท.ชลิต มณีพราว เป็นพนักงานสอบสวน ฉะนั้นการสอบสวนจึงชอบด้วยกฎหมายและโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายก ส่วนปัญหาที่ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำพิพากษาใหม่ ตามวันและเวลาที่แจ้งข้างต้น

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/naksit.org/photos/a.135675933167580.26339.115427115192462/982758361792662/?type=3&theater

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน(สนส.) 02-275 3954